Ads 468x60px

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554

การ Re-installing GRUB จาก Rescue System

http://www.susethailand.com/suseforum/index.php?topic=1645.0
จากสถานการณ์ที่ GRUB boot loader เกิดความเสียหายด้วยเหตุผลบางอย่าง เช่น ระหว่าง fsck ผู้ใช้อาจจะกดปุ่ม reset ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ เกิดจากไฟฟ้าติดๆ ดับๆ โดยคอมพิวเตอร์ไม่ได้เชื่อมต่อกับเครื่องสำรองไฟ (UPS) ซึ่งจำเป็นต้องติดตั้ง Boot loader ใหม่

การ Re-installing GRUB จาก Rescue System

1. บูตจากแผ่น DVD (SLED หรือ SLES 11)

2. เลือก "Rescue System"

3. ล็อคอินด้วย root

4. พิมพ์คำสั่ง grub

Code:
opensuse:~ # grub

    GNU GRUB  version 0.97  (640K lower / 3072K upper memory)
 [ Minimal BASH-like line editing is supported.  For the first word, TAB
   lists possible command completions.  Anywhere else TAB lists the possible
   completions of a device/filename. ]

grub> find /boot/grub/stage1
 (hd0,0)

grub> root (hd0,0)
 Filesystem type is reiserfs, partition type 0xfd

grub> setup (hd0)
 Checking if "/boot/grub/stage1" exists... yes
 Checking if "/boot/grub/stage2" exists... yes
 Checking if "/boot/grub/reiserfs_stage1_5" exists... yes
 Running "embed /boot/grub/reiserfs_stage1_5 (hd0)"...  18 sectors are embedded.
succeeded
 Running "install /boot/grub/stage1 (hd0) (hd0)1+18 p (hd0,0)/boot/grub/stage2 /boot/
grub/menu.lst"... succeeded
Done.

grub> quit

จากตัวอย่างด้านบน รูทพาร์ติชันคือ (hd0,0) ได้จากการใช้คำสั่งค้นหา (find /boot/grub/stage1)

5. รีบูตเครื่อง (เป็นอันเสร็จ)

วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2554

8 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการเปลี่ยน desktop ให้เป็น Ubuntu Server

เอาไว้สำหรับเป็นโปรเจคเล็กๆ เล่นยามว่าง ในที่นี้สมมุติว่าคุณมี Ubuntu 7.10 "Gutsy" (เวอร์ชั่น desktop) ติดตั้งในเครื่องแล้วนะ แล้วจะช้าอยู่ใย ลงมือกันเลยดีกว่า
ขั้นตอนที่ 0: จะทำเองหรือเสียตังค์? - จริงๆ แล้วมีวิธีการรันเซิฟเวอร์แอปพริเคชั่นได้หลายวิธี ด้วยสนนราคาที่ไม่แพงนัก เช่น Linode หรือ Bytemark ก็สามารถนำมาทำ "virtual root" ของเซิฟเวอร์ลีนุ๊กซ์ได้ในราคาประมาณ 600 บาทต่อเดือน โดยใช้ลีนุ๊กซ์แมชชีนเช่น User-Mode Linux (UML), Xen, และ VMWare.
แต่ถ้าไม่อยากเสียตังค์ก็เอาเครื่องของเราเองนี้แห ล่ะมาทำได้ แต่ต้องเป็นโปรเจคเล็กๆ นะ วิธีการที่จะทำกันต่อจากนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับ 'เวอร์ชวลรูทโฮสติ้งเซอร์วิส (virtual root hosting service)' ทั้งนี้เนื่องจากว่ายังไงคุณก็ต้องติดตั้งซอฟแวร์ของเซิฟเวอร์แบบเดียวกัน
ขั้นตอนที่ 1: หาทางเชื่อมต่อกับเซิฟเวอร์ - คุณต้องแน่ใจว่าคุณมี stable IP address และโดเมนเนมที่จะใช้ในการเชื่อมต่อไปยังเครื่องของคุณ คุณอาจต้องคุยกับผู้ดูแลระบบ หรือซื้อโดเมนของคุณเอง มีหลายๆ บริษัทให้บริการจดโดเมนในราคาไม่แพงนัก หรือคุณอาจจะหาโดเมนเนมจากบริษัทที่ให้บริการฟรีก็ได้ ถ้าคุณต้องการทราบไอพีแอดเดรสและโดเมนเนมของคุณเอง ก็สามารถใช้คำสั่งเช่น "ifconfig" และ "nslookup" หรือไปยังเวปไซต์พวก
whatismyip.com และ samspade.com ก็ได้ ถึงตอนนี้เมื่อคุณได้รับไอพีแอดเดรสและโดเมนเนมแล้ว ให้ตั้งโดเมนเนมสำหรับเครื่องของคุณโดยการแก้ไขไฟล์ /etc/hostname:
sudo nano /etc/hostname
แล้วใส่โฮสเนมในบันทัดเดียวกันหมด:
my.domain.name.th
พิมพ์ control-X เพื่อออกมาแล้ว saveไฟล์ คุณอาจเพิ่มข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับไอพีแอดเดรสและโฮสเนมไปยังไฟล์ /etc/hosts เช่นถ้าไอพีของคุณคือ 123.123.123.123 ให้เพิ่มบันทัดต่อไปนี้ไปยังไฟล์ (โดยการใช้ "sudo nano /etc/hosts"):
123.123.123.123 your.domain.name.th
ขั้นตอนที่ 2: ตั้งพาสเวิร์สให้ยากๆ หน่อย - ถ้าตั้งพาสเวิอร์ดยาวๆ มีทั้งตัวเล็ก ตัวใหญ่ ผสมกับหมายเลข และสัญญลักษณ์ได้จะดีมาก เป็นเรื่องสำคัญมากที่ต้องพยายามทำให้ได้ คุณอาจทำได้ง่ายๆ โดยไปที่ System->Administration->Users and Groups หรือที่ command line (กรณีใช้ Terminal) ให้รันคำสั่ง:
passwd
ตัวเลือกเพิ่มเติม: คุณสามารถตั้งพาสเวิอร์ดสำหรับ bios ของคุณและสำหรับ grub bootloader ใน BIOS ของคุณก็เช่นกันคุณสามารถตั้งลำดับการบูทเครื่องโดยให้ใช้ฮาร์ดไดร์เป็น ลำดับแรก เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คนอื่นเอา CD มาควบคุมระบบของคุณได้
ขั้นตอนที่ 3: ติดตั้งเซิฟเวอร์ SSH - เพื่อที่ว่าคุณจะได้ล๊อคอินไปยังคอมพิวเตอร์ทางไกล ผ่านการเชื่อมต่อแบบ encrypted ได้ ถ้าคุณใช้ command line ของ shell application ของ Terminal คุณสามารถติดตั้งแบบนี้ก็ได้:
apt-get install ssh openssh-server
หรือมิฉะนั้นคุณสามารถใช้ Synaptic package manager เพื่อค้นหา "ssh" และติดตั้ง package เดียวกัน
ตัวเลือกเพิ่มเติม: แก้ไขไฟล์ /etc/ssh/sshd_config เพื่อเปลี่ยนพอร์ตของ ssh ที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อ จากค่าปกติที่ 22 เป็นค่าอื่น เปลี่ยนที่บันทัดที่มีคำว่า "Port 22" ทั้งนี้เพราะพอร์ต 22 ง่ายต่อการถูกโจมตี (แต่ยังไงก็ตามที คุณควรจะรัน firewall และหมั่นดูแลระบบให้ทันสมัย และที่สำคัญควร backed up ข้อมูลบนเซิฟเวอร์บ่อยๆ เช่นกัน)
sudo nano /etc/ssh/sshd_config
รีสตาร์ท ssh
sudo invoke-rc.d ssh restart
ทดลองใช้คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น เชื่อมต่อไปยังเซิฟเวอร์ของคุณโดยใช้ ssh client (อาทิเช่น "ssh" บน command line หรือ Putty บน
windows เป็นต้น) เช่น ถ้าคุณเปลี่ยนค่าพอร์ตเป็น 789 และ username ของคุณคือ "superman" ดังนั้นคำสั่งสำหรับการเชื่อมต่อคือ:
ขั้นตอนที่ 4: ติดตั้ง LAMP software - Apache 2 webserver, PHP 5,
& MySQL 5 วิธีการติดตั้งแบบง่ายๆ คุณอาจทำโดยใช้ tasksel (บน command line) หรือ Synaptic ในการทำแบบ Synaptic ให้เลือก Edit->Mark
Packages by Task...และเลือก LAMP server และติดตั้ง หรือมิฉะนั้นที่ command line ให้ run
sudo tasksel
แล้วเลือก LAMP server ถ้าคุณไม่ได้ติดตั้ง tasksel ก็ให้ run "sudo apt-get install tasksel" ตอนนี้ก็จะเห็นว่ามีการติดตั้ง Apache, MySQL, และ PHP และควรมีการถามหา root password เพื่อใช้กับ MySQL ก็เช่นเดียวกันควรเลือกพาสเวิร์ดที่ดี ดังที่กล่าวไว้แล้วในขั้นตอนที่ 2 และก็ควรตั้งค่า MySQL ไม่ให้ตอบรับการติดต่อใดๆ
ยกเว้นจากเครื่องของคุณ (local machine) ตัวไฟล์หลักในการจัดการ Apache อยู่ที่:
/etc/apache2/apache2.conf

/etc/apache2/sites-enabled/000-default
ในกรณีที่คุณอยากแก้ไขใดๆ
root folder สำหรับเอกสาร HTML ของ webserver HTML ของคุณคือ:
/var/www
แก้ไขไฟล์ index.html ตัวอย่างเช่นคุณต้องการเปลี่ยนค่า homepage
ให้ตรวจดูเวปเซิฟเวอร์ของคุณที่ http://your.domain.name.th/
ขั้นตอนที่ 5: ติดตั้ง Firewall - อันนี้เป็นสิ่งจำเป็นเช่นเดียวกัน คุณสามารถบล๊อกการติดต่อทั้งหมดจากภายนอกได้ ยกเว้นพอร์ตที่คุณต้องการจะเปิดไว้ เวปเซิฟเวอร์จะใช้พอร์ต 80 และ ssh ใช้ พอร์ต อะไรก็ได้ที่คุณตั้งใน /etc/ssh/sshd_config (ค่าปกติอคือ 22 )

สำหรับ firewall ใน Ubuntu จะมีให้เลือกอยู่ 2 ตัว ถ้าคุณยังคงใช้เครื่องนี้เป็น desktop ต่อไปด้วย คุณอาจใช้ FireStarter เป็น graphical firewall manager แต่ถ้าคุณใช้เครื่องนี้เป็นเซิฟเวอร์อย่างเดียว คุณอาจเลือก Shorewall เพราะคุณสามารถแก้ไขจาก command line (ไม่แน่ใจว่า Firestarter จะสามารถใช้ command line ได้หรือเปล่าไม่เคยลอง) ในการติดตั้ง Shorewall ให้พิมพ์บันทัดต่อไปนี้:
sudo apt-get install shorewall
จากนั้นพิมพ์คำสั่งต่อไปนี้:
cd /usr/share/doc/shorewall/default-config sudo cp interfaces /etc/shorewall/ sudo cp policy /etc/shorewall/ sudo cp rules /etc/shorewall/ sudo cp zones /etc/shorewall/
โดย การใช้คำสั่งในการแก้ไข (เช่น sudo nano หรือ sudo gedit) คุณต้องแก้ไขไฟล์ 4 ไฟล์ ให้เพิ่มบันทัดนี้ก่อนบันทัดสุดท้ายของ /etc/shorewall/interfaces:
net eth0 detect
เพิ่มบันทัดนี้ก่อนบันทัดสุดท้ายของ /etc/shorewall/zones:
net ipv4
คุณจะต้องมีบันทัดที่เขียนว่า "fw firewall" อยู่ใน zones file ให้ใส่บันทัดต่อไปนี้ก่อนบันทัดสุดท้ายของ /etc/shorewall/policy:
fw net ACCEPT net all DROP info all all REJECT info
และเพิ่มบันทัดเหล่านี้ไปยังไฟล์ /etc/shorewall/rules ของคุณหลังจาก SECTION NEW line:
#change "22" to the port you used for ssh if not the default one: ACCEPT net fw tcp 22 ACCEPT net fw tcp www,https
เปลี่ยนจาก 22 ไปเป็นพอร์ตที่คุณจะใช้สำหรับ ssh ให้เอาคำว่า ",https" ออก ถ้าคุณไม่คิดว่าจะติดตั้ง ssh module ใดๆ สำหรับ apache
webserver (เพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรมซื้อขาย) สุดท้ายแก้ไขไฟล์ /etc/default/shorewall โดยเปลี่ยนบันทัดที่มีคำว่า startup=0 เป็น:
startup=1
คุณสามารถเปิด firewall โดยใช้คำสั่ง:
sudo invoke-rc.d shorewall start
ส่วนตัวเลือกอื่นๆ คุณสามารถผ่านไปยัง invoke-rc.d รวมถึงการ start, stop, และ restart
ขั้นตอนที่ 6: รักษาระบบให้ทันสมัยอยู่เสมอ - Run คำสั่ง
sudo apt-get update sudo apt-get upgrade
เพื่อให้ซอฟแวร์ update สม่ำเสมอ จำเป็นมากทีเดียวเพราะโดยทั่วไปแล้วตัวที่ update จะมีการแก้ไขข้อผิดพลาดด้านความปลอดภัยของระบบ คุณสามารถ run คำสั่งข้างต้นได้ทุกวัน หรือแม้แต่ใช้ crontab ก็ได้ มีเวป สอนการใช้ crontabอยู่หลายๆ เวป
ขั้นตอนที่ 7: หมั่นดูแลตรวจสอบ Site ของคุณ - มีเครื่องไม้เครื่องมือมากมายที่คุณสามารถติดตั้ง และใช้ในการตรวจสอบ site ของคุณเช่น webalizer (apache
statistics), webmin (ตัวนี้ใช้ เป็นweb-based control panel สำหรับเซิฟเวอร์ของคุณ) เป็นต้น ตัว crontab ผสมผสานกับ shell scripts (ใน bash, python, perl, และอื่นๆ) สามารถนำมาใช้ในการส่งอีเมล์ถึงคุณเมื่อเซิฟเวอร์มีปัญหาหรือล่ม หรือคุณอาจสั่งให้รีสตาร์ทอัตโนมัติได้
ขั้นตอนที่ 8: Backup backup และก็ยัง backup นั่นแหล่ะ - คุณควรทำการเก็บ backups ไฟล์บนเซฟเวอร์ของคุณอย่างสม่ำเสมอ คุณอาจ backup ไปยังฮาร์ดไดร์สำรอง หรือรีโมทคอมพิวเตอร์ก็ได้ คุณสามารถตกแต่ง RAID configuration เผื่อว่าการทำไดร์หลายๆ ไดร์จะช่วยเก็บข้อมูลซ้ำๆ กันได้ โดยการ copy และ compress backup ไปยังอีกไดร์ คุณสามารถ run คำสั่งดังต่อไปนี้เช่น:
sudo tar cpzf /media/path/to/backup/folder/my-backup.tar.gz
--exclude=/proc/* --exclude=/lost+found/* --exclude=/dev/*
--exclude=/mnt/* --exclude=/media/* --exclude=/sys/* --exclude=/tmp/*
--exclude=/var/cache/apt/* /
สำหรับ ในแง่เซิฟเวอร์ จะเป็นการดีถ้าใช้บางอย่างที่เหมือน rsync สามารถจัดแต่งเพื่อใช้ในการ backup อะไรก็ตามที่มีการเปลี่ยนแปลง แม้เพียงครั้งเดียวหลังจากครั้งสุดท้ายที่คุณทำการ back up (incremental backups) โปรดดูตัวอย่างได้ที่:
ควรเรียนรู้การกู้ไฟล์จาก backup ของคุณด้วยเช่นกัน รายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้ที่:
แหล่งข้อมูล Quickly Setting Up and Securing an Ubuntu Server

10 อย่างที่ควรทำหลังติดตั้ง Ubuntu 10.10

10 อย่างที่ควรทำหลังติดตั้ง Ubuntu 10.10

http://7meditation.blogspot.com/2011/02/10-ubuntu-1010.html

เมื่อคุณได้ดาวน์โหลด Ubuntu 10.10 มาแล้วเนื่ย จาก ubuntu.com แล้วมันจะสะอาดมากเลยใช่ไหมครับ
ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนการทำให้เครื่องของท่านเนื่ย สมบูรณ์ที่สุดนะครับ
1. เปิด โปรแกรมจัดการปรับปรุง
ถ้าท่านไม่ได้ต่อเน็ตและอัพเดตตอนติดตั้งนะครับ ท่านควรที่จะทำการอัพเดตเพื่ออุดช่องโหว่และรับซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นใหม่ๆนะ ครับ เพื่อที่จะให้เครื่องคุณล่าสุดตลอดเวลานะครับ

2. เปิดการใช้งานไดรว์เวอร์กราฟฟิกสามมิติ
ถ้าท่านต้องการใช้งานระบบเอฟเฟค 3 มิติ เช่น Compiz นะครับ เราควรจะเปิดการใช้งานไดรว์เวอร์กราฟฟิกของเครื่องของท่านนะครับ
Ubuntu จะสามารถตรวจสอบและเตือนคุณว่ามีไดร์เวอร์ที่ใช้งานได้นะครับ ถ้ามี ก็จะขึ้นไอค่อน เมนบอร์ด บนพาเนลด้านบนนะครับ คลิกแล้วเลือก Install driver. แล้วทำตามขั้นตอนเลยนะครับ
ถ้าเครื่องของคุณไม่ยอมตรวจสอบว่ามีไดร์เวอร์นะครับ (เรื่องปกติ) คุณก็สามารถเข้าไปที่ ‘Additional Drivers’ จากเมนู ระบบ > ดูแลระบบ นะครับ

3. ตั้งค่าโปรแกรมซิงค์ไฟล์ Ubuntu One
Ubuntu One คือโปรแกรมที่ให้ผู้ใช้ Ubuntu มีพื้นที่ 2GB ให้ฟรีๆ ทำให้เราสามารถปรับข้อมูลกับเซิฟเวอร์ นำไฟล์ไปสำรอง สำรองบุ๊คมาร์คของ Firefox, Tomboy notes และ Evolution ระหว่างเครื่อง และไฟล์อื่นๆที่คุณต้องการเลยครับ
ไปที่ ระบบ > ปรับแต่งพื้นโต๊ะ > Ubuntu One เพื่อเริ่มต้นการใช้งานได้เลยครับ
หรือถ้าอยากใช้ Dropbox ก็ดาวน์โหลดได้จากที่นี่เลยครับ
https://www.dropbox.com/downloading?os=lnx
เลือก Ubuntu (x86 .deb) ถ้าใช้ 32 บิต หรือเลือก Ubuntu (x86_64 .deb) ถ้าใช้ 64 บิต ครับ
แล้วติดตั้งตามขั้นตอนเลย
4. ติดตั้ง Ubuntu Tweak และทำให้ชีวิตคุณง่ายยิ่งขึ้น
Ubuntu Tweak คือโปรแกรมที่ใช้ปรับแต่งเครื่องของคุณตามต้องการครับ เช่น จัดการและติดตั้งโปรแกรมเสริม, ปรับแต่งพื้นโต๊ะของท่าน (เช่นทำให้ปุ่มหน้าต่างอยู่ด้านขวา และเลือกไอคอนที่ท่านต้องการให้มันแสดงบนพื้นโต๊ะครับ) และทำให้เครื่องของคุณสะอาดโดยทำความสะอาดเครื่องได้อีกด้วยครับ!

ดาวน์โหลดได้จากเว็บผู้ผลิตโปรแกรมเลยครับ
http://ubuntu-tweak.com
5. เข้าสู่ศูนย์ซอฟต์แวร์ Ubuntu เพื่อค้นหาโปรแกรมที่คุณต้องการ
แผ่น Ubuntu 1 แผ่นเนื่ยครับ จะยัดโปรแกรมลงมาไม่ไหว เช่น โปรแกรม VLC, GIMP ท่านสามารถติดตั้งด้วยโปรแกรมนี้ครับ
สามารถเข้าไปได้ที่ โปรแกรม > ศูนย์ซอฟต์แวร์ Ubuntu
ทุกโปรแกรมสามารถติดตั้งได้เพียงแค่คลิกเดียวครับ


6. ทำให้หน้าตาเบราเซอร์ในเครื่องของคุณให้เข้ากันได้กับ Ubuntu
โดยปกติแล้วเบราเซอร์ Firefox ที่แถมมากับ Ubuntu หน้าตาอาจจะไม่เข้ากันกับระบบนะครับ ลองทำตามลิ้งค์ด้านล่างดูครับ (ภาษาอังกฤษ)
Ubuntu 10.10 Ambiance & Radiance themes for Chrome, Firefox & Opera
http://www.omgubuntu.co.uk/2010/09/ubuntu-10-10-ambiance-radiance-themes...
7. ติดตั้ง indicators applet บางตัว
Ubuntu’s Indicator-Applet project – ซึ่งทำให้ไอค่อนแจ้งเตือนบนพาเนลดูดีขึ้นมากเลยครับ
แต่ว่ายังมีอีกหลายตัวของ indicators applet ที่เข้ากับโปรแกรมในเครื่องของคุณได้ ลองติดตั้งเพิ่มดูสิครับ
ลองเข้าไปดู http://www.omgubuntu.co.uk/tag/indicatorapplets/ นะครับ
8. ติดตั้ง Restricted Codec
สำหรับบางท่านที่ไม่ได้เลือกติดตั้งตอนติดตั้งระบบนะครับ ทำให้อาจจะเล่นไฟล์มีเดียบางชนิดไม่ได้ สามารถติดตั้งได้โดยสั่งใน terminal ว่า
$ sudo apt-get update && sudo apt-get install ubuntu-restricted-extras
หรือเข้าศูนย์ซอฟต์แวร์ Ubuntu แล้วค้นหา ubuntu-restricted-extras แล้วคลิกติดตั้งเลยครับ

9. ติดตั้งโปรแกรม Ailurus
โปรแกรมนี้ควรจะติดตั้งไว้อีกตัวครับ คล้ายกับ Ubuntu tweak เลยครับ แต่ปรับแต่งได้มากกว่า
ติดตั้งโดยสั่งใน terminal (โปรแกรม > เครื่องใช้ไม้สอย > เทอร์มินัล): -
sudo add-apt-repository ppa:ailurus/ppa
sudo apt-get update && sudo apt-get install ailurus

10. ลุยเลยครับ
ตอนนี้เครื่องของท่านก็พร้อมใช้งานแบบเต็มที่แล้วครับ


การติดตั้ง Ubuntu Linux 9.04

การติดตั้ง Ubuntu Linux 9.04

posted on 22 Jun 2009 19:09 by totiz  in Tutorial
    เพื่อนๆหลายคนในนี้อาจจะเคยได้ยิน Ubuntu Linux กันมาบ้างแล้ว แต่บ้างคนก็ยังไ่ม่เคยได้ลองใช้มัน
กันสักที  ผมขอพูดคร่าวๆเกี่ยวกับ Ubuntu Linux กันก่อนนะครับ
  • Ubuntu เป็น Linux Distro ตัวหนึ่งที่ได้รับความนิยมกันอย่างมากในการใช้งานแบบ Desktop
    (บุคคลทั่วไป) ไม่ว่าจะเป็นใน PC, Notebook หรือ Netbook โดยหัวหอกในการพัฒนา Ubuntu
    ก็คือ Debian ซึ่งเป็น Linux Server Class ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
  • ข้อดีของ Ubuntu
    1. ฟรี  ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น  สามารถโหลดได้จากเวป Ubuntu
    2. เสถียร เพราะใช้ Kernal ของ Linux(ตัวจัดการหลัก) ที่มีคนช่วยกันพัฒนาจากทั่วทุกมุมโลก
    3. Multimedia Support รองรับการดูหนังฟังเพลง ได้ทุก Format ไม่ว่าจะเป็น MP3, 3GP, VCD, DVD, DivX, ...  ซึ่งไม่ต้องลงโปรแกรมอะไรเพิ่มเลย(มีระบบตรวจสอบและติดตั้งให้)
    4. Package Managerment มีระบบจัดการโปรแกรมต่างๆ โดยสามารถสั่งโหลดและติดตั้งได้ภายในไม่กี่คลิก
    5. Desktop ที่สวยงาม ไม่มีอะไรจะบรรยายมาก ดู VDO เลยดีกว่า
    6. และอื่นๆ อีกมากมาย  มาดูวิธีติดตั้งกันเลยดีกว่าครับ
    การติดตั้ง
  • ใส่แผ่น CD ที่ไรท์ Ubuntu 9.04 ลงไปแล้ว  หลังจากนั้น Restart เครื่อง
  • จะเจอหน้าจอดังภาพ  กด Enter ได้เลยครับ
  • เลือก Install Ubuntu แล้วกด Enter
  • รอโหลดจากแผ่นสักครู่
  • เลือกภาษาเป็นภาษาไทย(จะมีผลกับเมนูใน Ubuntu ทั้งหมด)
  • เลือก Timezone เป็น Aisa, Bangkok
  • เลือกแป้นพิมพ์เป็นภาษาไทย
  • เลือกใช้พื้นที่ของดิสท์ทั้งหมด (หากท่านมีความรู้สามารถเลือกกำหนดพาร์ติชั่นเองได้)
  • กรอก Username และ Password ที่จะใช้ในการ Login และเลือกล๊อกอินโดยอัตโนมัติ
  • หน้านี้จะรายงานก่อนการติดตั้ง ให้กดติดตั้งได้เลย
  • รอการติดตั้ง - กำลังฟอร์แมตพาร์ทิชันและสร้างใหม่อยู่
  • รอการติดตั้ง - กำลังติดตั้งระบบ
  • รอการติดตั้ง - กำลังติดตั้งค่า apt (ตัวจัดการ Package)
  • รอการติดตั้ง - กำลังติดชุดภาษา
  • รอการติดตั้ง - กำลังตรวจสอบและกำหนดค่าฮาร์ดแวร์
  • เสร็จสิ้นการติดตั้ง กดเริ่มใหม่เพื่อรีบูต
  • กำลังโหลดระบบขึ้นมาใหม่
  • เข้าสู่หน้า Ubuntu อย่างสวยงาม
  • ก่อนอื่นเข้าไปจัดการตัว Synaptic ให้ใช้ Mirror1.ku.ac.th โดยไปที ดูแลระบบ->เครื่องมือจัดการแพกเกจ..
  • จะมีการแจ้งเตือนอะไรเล็กน้อย ให้กดปิดไป
  • ไปทีตั้งค่า->แหล่งแพกเกจ
  • ที่ดาวน์โหลดจาก ให้เลือกอื่นๆ
  • เลือกเป็น mirror1.ku.ac.th (แนะนำเพราะผมใช้แล้วโหลดไว้ดี ^_^)
  • หลังจากเลือกแล้วให้กดปิดไป
  • กด เรียกใหม่ เพื่ออ่านค่าใหม่จาก Server mirro1.ku.ac.th
  • กำลังอ่านค่าใหม่
  • ทดสอบลงโปรแกรมโดยไปที เกมและความบันเทิง->atomix
  • คลิกขวาเลือก เลือกให้ติดตั้ง
  • กดเลือกเพื่อยอมรับ
  • คลิกที กระทำ เพื่อเริ่มการติดตั้ง
  • คลิกทีเริ่มใช้
  • กำลังดาวน์โหลดโปรแกรมและติดตั้ง
  • เมื่อเสร็จเรียบร้อยให้ไปที โปรแกรม->เกม->Atomix
  • หน้าตาเกมส์ก็เป็นแบบนี้ครับ
  • ทดสอบใช้งาน Firefox ไปที โปรแกรม->อินเตอร์เน็ต->Firefox Web Browser
  • ทดสอบเข้าเวป totiz.exteen.com เป็นอันว่าใช้ได้ ^_^
     เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับการติดตั้ง Ubuntu 9.04 ไม่อยากเลยใช่ไหมครับ  ที่ผมเขียน
บทความนี้ก็เพื่อหวังว่าจะมีคนสนใจ  และใช้งาน Ubuntu ซึ่งเป็น Free OS  กันเพิ่มมากขึ้น จริงๆแล้ว
ไม่ต้อง Ubunt ก็ได้นะครับ  จะเป็น Fedora หรือตัวอื่นๆ ก็ได้  เพราะ OS เหล่านี้ล้วนเป็นของฟรีที่ไม่เสียค่า
ลิขสิทธิ์  และคุณภาพไม่ด้อยไปกว่า Windows ที่เสียตังเลยครับ

     มีอะไรสงสัยก็ Comment ไว้ได้นะครับ

(ขอบคุณ Vmware ที่ใช้ในการลง Ubuntu ครั้งนี้)

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

ผังขั้นตอนดำเนินการอนุญาตประทานบัตร

ข้อมูล: กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ 
http://www.dpim.go.th/srv/mnpratan.php

ไฟล์ผังขั้นตอนดำเนินการอนุญาตประทานบัตร>>Click ที่นี่
ขั้นตอนดำเนินการอนุญาตประทานบัตร
             เมื่อผู้ขอยื่นคำขอประทานบัตรพร้อมเอกสาร ประกอบคำขอ เจ้าพนักงานอุตสาหกรรมแร่ประจำท้องที่จะต้องดำเนินการ เป็น 8 ขั้นตอน ดังนี้
    1. เจ้าพนักงานอุตสาหกรรมแร่ประจำท้องที่
    • รับคำขอ
    • นัดผู้ขอเพื่อนำรังวัดกำหนดเขต
    • ทำการรังวัด ทำการไต่ส่วน และจัดทำแผนที่
    2. แจ้งหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องพร้อมทั้งแจ้งผู้ขอดำเนินการดังนี้
    หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง
    • พื้นที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ ผู้ยื่นคำขอต้องดำเนินการติดต่อกรมป่าไม้ พิจารณาอนุมัติให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าไม้
    • หรือพื้นที่อยู่ในความดูแลของหน่วยราชการอื่น ผู้ยื่นคำขอต้องดำเนินการติดต่อส่วนราชการนั้นเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ
    • หรือพื้นที่อยู่ในที่ดินกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองของบุคคลอื่น ผู้ยื่นคำขอต้องนำหนังสืออนุญาตของผู้มีสิทธิในที่ดินนั้น และมีคำรับรองของนายอำเภอประจำท้องที่มาแสดงประกอบการอนุญาต
    • สภาตำบลหรือองค์การบริหารส่วนตำบลพิจารณาให้ความเห็นชอบ
    • จังหวัดดำเนินการแจ้งให้อำเภอและกำนันท้องที่ปิดประกาศ ณ ที่ว่าการอำเภอหรือที่ว่าการกิ่งอำเภอและที่ทำการกำนันท้องที่แห่งละหนึ่งฉบับเป็นเวลา 20 วันทำการ
    ผู้ขอจัดทำเอกสารส่งให้เจ้าพนักงานอุตสาหกรรมแร่ประจำท้องที่ ดังนี้
    • แผนผังโครงการทำเหมืองและรายการคำนวณอายุประทานบัตร
    • รายงานลักษณะธรณีวิทยาแหล่งแร่
    • รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
    3. เจ้าพนักงานอุตสาหกรรมแร่ประจำท้องที่รวบรวมเอกสารส่งไปกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
    • กรณีเป็นรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้กรมส่งไปยังสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาให้ความเห็นชอบ
    4. สำนักเหมืองแร่และสัมปทาน กรมอุตสาหกรรมพื้นฐาน และการเหมืองแร่ ตรวจสอบเอกสาร พร้อมทั้งหนังสือเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหนังสืออนุญาตให้ใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีเป็นพื้นที่ของหน่วยงานนั้น ๆ
    5. คณะกรรมการพิจารณาเกี่ยวกับการขอสิทธิสำรวจและทำเหมืองแร่ของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่พิจารณาก่อนนำเสนอคณะกรรมการตามพระราชบัญญัติแร่
    6. คณะกรรมการตามพระราชบัญญัติแร่เสนอความเห็นต่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อพิจารณาอนุญาตประทานบัตร
    7. กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่สอบถามปัญหาในด้านมวลชนหรือการคัดค้านของราษฎรจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด
    8. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมอนุญาตประทานบัตร
เอกสารที่ใช้ประกอบคำขอประทานบัตร
กรณีบุคคลธรรมดา
  1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  2. สำเนาทะเบียนบ้าน
  3. สำเนาหนังสือรับรองการเป็นสมาชิกสภาการเหมืองแร่
  4. หลักฐานที่เชื่อถือได้ว่าพบแร่ หรือมีแร่ชนิดที่ประสงค์จะเปิดการทำเหมืองในเขตคำขอนั้น
  5. สำเนาหนังสือมอบอำนาจที่ทำตามแบบที่อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่กำหนด ในกรณีที่ได้มอบหมายให้บุคคลอื่นยื่นคำขอแทน
กรณีนิติบุคคล
  1. สำเนาหนังสือบริคณห์สนธิและข้อบังคับของบริษัท
  2. สำเนาหนังสือสำคัญการจดทะเบียนนิติบุคคล
  3. สำเนาหนังสือรับรองของนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท แสดงรายชื่อกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม (สำเนาหนังสือรับรองต้องไม่เกิน 6 เดือน)
  4. สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทรับรอง
  5. สำเนาหนังสือรับรองการเป็นสมาชิกสภาการเหมืองแร่
  6. หลักฐานที่เชื่อถือได้ว่าพบแร่ หรือมีแร่ชนิดที่ประสงค์จะเปิดการทำเหมืองในเขตคำขอนั้น
  7. สำเนาหนังสือมอบอำนาจที่ทำตามแบบอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่กำหนด ในกรณีที่ได้มอบหมายให้บุคคลอื่นยื่นคำขอแทน